สรุปฎีกา
คำพิพากษาฎีกาที่ 3958/2561 นี้วินิจฉัยว่า การที่โจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ฟ้องคดีล้มละลาย บ. แต่จำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินการและกลับรายงานเท็จต่อโจทก์ ทำให้โจทก์หลงเชื่อว่ามีการฟ้องคดีล้มละลาย บ. แล้ว ถือเป็นการกระทำผิดสัญญาจ้างและละเมิดต่อโจทก์
ศาลฎีกาชี้ว่า แม้ บ. จะไม่มีทรัพย์สินใดให้บังคับคดีในคดีแพ่งก็ตาม แต่ในคดีล้มละลายมีกระบวนการพิจารณาที่แตกต่างออกไป เนื่องจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยให้ลูกหนี้แสดงรายการทรัพย์สิน รวมถึงสิทธิในการได้มาซึ่งเงินและทรัพย์สินจากบุคคลภายนอก และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังสามารถใช้สิทธิในการตรวจสอบสินทรัพย์ของ บ. ได้ ดังนั้น จึงอาจทำให้โจทก์มีโอกาสที่จะได้รับชำระหนี้ได้
ด้วยเหตุนี้ การที่จำเลยที่ 1 ไม่ฟ้องคดีล้มละลาย บ. จึงเป็นผลโดยตรงที่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ศาลฎีกาจึงเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นละเมิดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
ฎีกาตัวเต็ม
คำพิพากษาฎีกาที่ 3958/2561 การที่โจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ฟ้องคดีล้มละลาย บ. แต่จำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินการ กลับรายงานเท็จต่อโจทก์ ทำให้โจทก์หลงเชื่อว่ามีการฟ้องคดีล้มละลาย บ. แล้ว เป็นการกระทำผิดสัญญาจ้างและละเมิดต่อโจทก์ หากจำเลยที่ 1 ดำเนินการฟ้อง บ. ภายในอายุความ แม้ปรากฏว่า บ. ไม่มีทรัพย์สินใดให้บังคับคดีในคดีแพ่งก็ตาม แต่ในคดีล้มละลายมีกระบวนการพิจารณาแตกต่างไปจากการบังคับคดีแพ่งทั่วไป เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจหน้าที่ในการที่จะไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยให้ลูกหนี้แสดงรายการหรือรายละเอียดของทรัพย์สินที่มีอยู่รวมทั้งสิทธิต่างๆ ในการที่จะได้มาซึ่งเงินและทรัพย์สินจากบุคคลภายนอกรวมทั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สามารถใช้สิทธิในการตรวจสอบสินทรัพย์ของ บ. ได้ จึงอาจทำให้โจทก์มีโอกาสที่จะได้รับชำระหนี้ การที่จำเลยที่ 1 ไม่ฟ้องคดีล้มละลาย บ. จึงเป็นผลโดยตรงที่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย